เลือกหมอนแก้ปวดคออย่างไร ช่วยคุณให้นอนหลับสบายได้
ไม่ว่าใครก็ต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเฉพาะในการนอนเพราะใช้เวลาถึง1 ใน 3 ของชีวิตในแต่ละวันเลยทีเดียว แต่ยังคงมีอีกหลายท่านที่ประสบปัญหาไม่สามารถนอนหลับอย่างเป็นสุขได้เนื่องจากต้องทนกับอาการปวดคออยู่ทุกค่ำคืน ซึ่งแท้จริงแล้วเราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างง่ายดายเพียงแต่คุณต้องเลือกหมอนแก้ปวดคอให้เหมาะสมเท่านั้น แต่จะทำอย่างไรจึงจะสามารถเลือกหมอนแก้ปวดคอได้อย่างได้ผล ลองมาทำตามวิธีเหล่านี้กันหมอนนั้นมีมากมายหลายประเภท มากมายหลายรูปทรง หลายยี่ห้อ หลากหลายด้วยวัสดุและกรรมวิธีในการผลิต รวมถึงราคาที่แตกต่างกันด้วย หากคุณประสบความทุกข์เกี่ยวกับอาการปวดคอขณะนอน วันนี้เรามีหมอนหลากหลายแบบให้คุณมาเลือกชมกัน
โดยหลักๆแล้วหมอนแก้ปวดคอจะทำจากวัสดุหลักๆอยู่ 2 ประเภท ดังนี้
1. หมอนที่ทำจากธรรมชาติ
- หมอนที่ทำจากขนสัตว์ปีก ได้แก่หมอนที่ทำจาก ขนเป็ด ขนห่าน ขนนกกระจอกเทศ ซึ่งหมอนในกลุ่มนี้จะให้ความนุ่มเบา และสามารถเข้าถึงในช่วงช่องว่างระหว่างคอศีรษะและที่นอนได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับอาการปวดคอเป็นอย่างมาก แต่จะนิ่มและเตี้ยเป็นพิเศษ จึงควรเลือกซื้อหมอนขนสัตว์ปีกเหล่านี้ที่มีเนื้อแน่นพอสมควร โดยให้เลือกที่มีความสูงของหมอนอยุ่ที่4-6 นิ้ว เพราะเมื่อยุบตัวขณะที่นอนจะได้ไม่เตี้ยและนิ่มจนไม่สามารถหายใจได้สะดวก รวมถึงไม่เตี้ยและนิ่มจนรูปกระดูกคอผิดไปและทำให้เกิดอาการปวดคอเพิ่มมากขึ้นอีก โดยหมอนประเภทนี้เหมาะแก่การนอนเป็นอย่างมากแต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเพราะมีราคาที่สูงตั้งแต่หลักพันขึ้นไป
- หมอนที่ทำจากใยธรรมชาติ เช่น ใยฝ้าย หมอนที่ทำจากฝ้ายจะมีเนื้อที่นุ่มและแน่น และเมื่อใช้ไปนานๆจะมีการยุบตัวทำให้หมอนมีเนื้อแข็ง ดังนั้นหากผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนแล้วปวดคอเหมือนศรีษะตกหมอนจึงไม่เหมาะกับหมอนประเภทนี้ เพราะมักจะสูงและมีเนื้อแข็งแน่นจนกดเส้นเลือดทำให้เลือดลมเดินไม่สะดวก และเกิดอาการปวดหัวเวียนหัว ตลอดจนเกิดอาการเจ็บปวดเพิ่มขึ้นได้ หมอนประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับทำหมอนอิง หรือเบาะนั่งเพราะเนื้อแน่นไม่ยุบตัว หรือใช้นอนตะแคงสำหรับผู้ปวดต้นคอมากกว่าที่จะใช้นอนหงาย
- หมอนที่ทำจากเมล็ดพืช ได้แก่ หมอนที่ทำจากเมล็ดถั่วต่าง รวมถึงเมล็ดพืชที่มีขนาดเล็กแต่กลมเกลี้ยง หมอนประเภทนี้จะมีการระบายอากาศที่ดี ช่วยให้ศีรษะเย็นสบาย มีการปรับเปลี่ยนรูปลักษณะตามการขยับเขยื้อนของร่ายกาย รวมถึงปรับตามสรีระของผู้นอนด้วย ถ้าหากไม่มีการผูกและจัดรูปทรงให้ดีด้วยปลอกหมอน จะไหลและแบบราบ หากคุณมีอาการปวดคอหมอนในลักษณะนี้อาจจะช่วยประคองต้นคอของคุณได้หากมีการปรับความแน่นของหมอนให้ดีและพอเหมาะด้วยการผูกเชือกที่ปลอกหมอน แต่อาจจะนอนได้เพียงชั่วครู่เพราะต้องคอยขยับหมอนทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนท่านอน จึงเหมาะแก่การใช้นอนพักผ่อนในเวลากลางวันมากกว่าจะใช้นอนในระยะยาวช่วงกลางคืน
- หมอนน้ำ เป็นหมอนที่ด้านในบรรจุน้ำเอาไว้ และมีลักษณะที่สามารถไหลลื่นได้เหมือนน้ำบรรจุในลูกโป่ง หมอนประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการศีรษะร้อนและทำให้ปวดหัว รวมถึงผู้ที่มีอาการความดันโลหิตสูง ช่วยบรรเทาให้เย็นลง ศีรษะเย็นซึ่งจะทำให้รู้สึกสดชื่นเมื่อตื่นนอน อาจไม่เหมาะแก่ผู้ที่ปวดต้นคอเพราะความเย็นของหมอนจะไปทำให้เกิดอาการเกร็งเพิ่มของกล้ามเนื้อได้ในบางคน
2. หมอนที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์
- หมอนใยสังเคราะห์ เป็นหมอนที่ด้านในบรรจุใยโพลีเอสเตอร์ มีความนุ่มเบา พองตัวสูง แต่อมฝุ่นและความร้อน จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดต้นคอ
- หมอนยางพารา และหมอนโฟม เป็นหมอนที่มีการอัดฉีดขึ้นรูปจากยางพาราและเนื้อโฟม ไม่สามารถโดนน้ำหรือตากแดดได้เพราะจะทำให้เนื้อแข็งและไม่สามารถนำมาใช้ได้อีก มักจะมีการขึ้นรูปของหมอนแบบหมอนเพื่อสุขภาพ คือด้านหนึ่งต่ำและด้านหนึ่งสูงเพื่อรับกับช่องว่างของต้นคอโดยที่ไม่ทำให้เงยหน้าขณะนอน จึงเหมาะแก่ผู้ที่มีอาการปวดต้นคอเป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถรองรับต้นคอได้เป็นอย่างดี และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามสรีระของร่างกายแม้จะเปลี่ยนท่านอนแล้วก็ตาม
ทั้งหมดนี้คือหมอนที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมใช้เพื่อหนุนนอน โดยหมอนแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกันตามแต่คุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ผลิต จึงควรเลือกหมอนแก้ปวดคอ ตามลักษณะอาการและตามความเหมาะสมของสรีระในแต่ละคน ทั้งนี้เพื่อผลลัพธ์ในการรักษาและบรรเทาอาการปวดคอให้ได้ดีที่สุดนั่นเอง