อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ ดีอย่างไร ใช้ได้ผลดีหรือไม่

65

อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ ช่วยได้มากน้อยแค่ไหน

อาการปวดคอ เป็นอีกหนึ่งอาการที่พบได้บ่อยในปัจจุบันนี้ และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาการของคนทำงานหรือใช้เทคโนโลยีมากที่เรียกว่า ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ซึ่งอาการปวดคอนี้ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องเป็นคนทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ที่นั่งหลังค่อมก้นจ่อมอยู่หน้าจออยู่ตลอดทั้งวันก็ได้ ถ้าใครก้มหน้าเล่นโทรศัพท์หรือแทปเล็ตนานๆ ก็มีอาการปวดเมื่อยคอได้เหมือนกัน

นอกจากนี้ก็ยังเกิดได้จากการนอนผิดท่าในตอนกลางคืน ที่เรียกว่าอาการตกหมอน กล้ามเนื้อเกิดอาการเกร็งทำให้ปวดร้าว หมุนหัวหรือหันไปมาลำบาก อาการพวกนี้เป็นอาการที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมากเลยทีเดียว แต่ส่วนใหญ่ถ้าได้นวดประคบสักหน่อย หรือปล่อยไว้เฉยๆ วันสองวันอาการก็จะทุเลาหรือหายไปได้ แต่ก็มีเหมือนกันที่อาการปวดหนักกว่านั้น จนต้องหาวิธีบำบัดแบบอื่น และที่น่ากลัวที่สุดก็คือ อาการปวดคอที่เกิดจากอาการของกระดูก

ซึ่งนอกจากการไปพบแพทย์ หรือ นักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญให้ช่วยรักษา ก็ยังมีอาจจะต้องใช้ อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ ด้วย อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ บางท่านอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักและไม่ทราบถึงประสิทธิภาพในการใช้งานว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นคราวนี้เราจะมาเล่าให้ฟังถึงเรื่องของ อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ ว่าเป็นอย่างไร และประสิทธิภาพหลังจากใช้งานแล้วเกิดผลอย่างไรบ้าง

ปัจจัยสำคัญก่อนเลือกซื้อ  อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ

ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเลือกใช้ อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ ดีหรือไม่ เราจะต้อง ทราบเสียก่อนว่าอาการปวดคอของเราเกิดจากอะไรและมีอาการระดับไหน เหมาะสมกับการรักษาด้วยการใช้ อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ หรือสามารถใช้วิธีอื่นได้

อาการปวดคอที่ต้องใช้ อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ นั้นเกิดได้จากสาเหตุหลักๆ 2 ประเภท ดังนี้

  1. ท่าทางไม่ถูกต้องในการทำกิจกรรมประจำวันติดต่อกันเป็นเวลานานจนเกิดอาการปวดคอเรื้อรัง เช่น การก้มคอนั่งทำงานนานๆ การก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ท่าทางที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้หากทำเป็นเวลานานทำให้กล้ามเนื้อและกระดูกส่วนหลังและคอเกิดความเครียด เมื่อทำติดต่อกันนานๆ ทำให้เกิดปัญหากระดูกเสื่อม และปวดคอเรื้อรังได้
  2. อุบัติเหตุ อาจจะเกิดจากการเล่นกีฬาหรือประสบอุบัติเหตุได้รับความกระทบกระเทือนจากการขับขี่ยวดยาน การหกล้ม หรือถูกชน แรงกระแทกเหล่านี้ก็ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้

ในกรณีที่แพทย์เห็นว่ามีอาการในระดับที่ค่อนข้างรุนแรง จะให้ใช้ อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ มาช่วย ซึ่งจะมีอยู่ 2 แบบ แบบแรกเป็นเครื่องที่อยู่กับที่ใช้การดึงยืดกระดูกขึ้นช้าๆ และดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ แพทย์จะนัดให้ไปทำกายภาพลักษณ์นี้เป็นครั้งคราว การดึงของ อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ นี้จะช่วยจัดทรงกระดูกใหม่ให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม

          อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ นั้น มีลักษณะเป็นปลอกคอ ใช้สวมใส่เพื่อพยุงลำคอเอาไว้ ช่วยรองรับน้ำหนักของศีรษะและลำคอให้ถ่ายเทลงไปที่บ่า ไม่เป็นภาระของกระดูกคอ ช่วยลดอาการปวดและลดความเสียหายของกระดูกคอได้เป็นอย่างดี มีอยู่หลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน แต่นอกจากการใช้ อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ แล้ว ก็จะมีการ ให้ฝึกบริหารกล้ามเนื้อคอร่วมด้วย (จะฝึกช่วงไหน ขึ้นอยู่กับสภาพอาการบาดเจ็บของผู้ป่วยเป็นหลัก ซึ่งแพทย์จะทำการวินิจฉัยก่อนที่จะจัดระยะเวลาในการทำกายภาพ) ซึ่งจะอยู่ภายใต้คำแนะนำ และการติดตามดูแลของแพทย์และนักกายภาพบำบัด

วิธีรักษาอาการปวดคอเรื้อรัง ที่นอกเหนือจากการใช้ อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ
  1. การฉีดยาระงับการอักเสบเฉพาะจุด ในกรณีที่มีอาการอักเสบแต่สภาพกระดูกยังไม่เสื่อมมากจนต้องอาศัยการผ่าตัด แพทย์จะใช้วิธีการฉีดยาเข้าไปในบริเวณที่มีปัญหา เพื่อลดอาการอักเสบ ซึ่งเมื่อได้รับการฉีดยาแล้วก็จะทำให้หายจากอาการเจ็บปวดลงได้ ซึ่งยาจะมีฤทธิ์อยู่ประมาณ 3 เดือน ซึ่งหากว่ามีการดูแลที่ถูกต้องและมีการปรับพฤติกรรมไม่ให้กลับไปเสี่ยงเจ็บคออีก ก็มีสิทธิ์ที่จะหาย ไม่ต้องกลับมาฉีดยาอีก
  2. การผ่าตัด มีการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการปวดคอหลายแบบ ซึ่งจะพิจารณารักษาวิธีนี้เมื่อแพทย์เห็นว่าจำเป็น การ ใช้ อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ เพียงอย่างเดียวไม่ได้ผล การฉีดยาไม่สามารถช่วยได้ การผ่าตัดก็มีทั้งการ ใช้เครื่องมือสอดเข้าไปที่เรียกว่าการส่องกล้อง ผ่าตัด ไปจนถคงการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนหมอนรองกระดูก

สำหรับผู้ที่มีอาการปวดคอ หลายๆ ท่านเชื่อว่า คงสนใจวิธีการใช้ อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ มากกว่า เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่ายและไม่น่ากลัว ไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว และเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า แต่การจะรักษาอาการด้วย อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ หรือใช้วิธีอื่น ก็ขึ้นอยู่กับแพทย์ที่จะวินิจฉัยว่าอาการอยู่ในระดับไหน และเหมาะสมจะใช้วิธีใดรักษา

        ดังนั้นเพื่อให้เราไม่ต้องเจ็บปวดและเสียค่าใช้จ่ายมาก ควรไปปรึกษาแพทย์ตั้งแต่มีอาการน้อยๆ  เพื่อที่จะได้รักษาตั้งแต่เริ่มต้น หากว่าสภาพกระดูกยังไม่เสียหายมาก ก็อาจจะใช้แค่ อุปกรณ์กายภาพบำบัดแก้ปวดคอ หรือ อาจจะเพียงแค่รับประทานยาและทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อบริเวณคอให้แข็งแรง เท่านั้น แต่หากว่ามีอาการมาก ปล่อยให้สภาพของกระดูกเสื่อมจนไม่มีทางอื่น ก็จำเป็นที่จะต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด เพื่อให้เราสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติดังเดิม

 

Citibank_Citi-Cashback-_ซิตี้แคชแบ็ก-2020.jpg